โทษของอินเตอร์เน็ต






โทษของอินเทอร์เน็ต

ทุกสรรพสิ่งในโลกย่อมมีทั้งด้านที่เป็นคุณประโยชน์และด้านที่เป็นโทษ เปรียบเหมือนเหรียญที่มี 2 ด้านเสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกใช้อย่างไรให้เกิดผลดีต่อเรา ขอยกตัวอย่างโทษที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการใช้งานอินเทอร์เน็ตดังนี้ โรคติดอินเทอร์เน็ต (Webaholic)อินเทอร์เน็ตก็เป็นสิ่งเสพติดหรือ? หากการเล่นอินเทอร์เน็ตทำให้คุณเสียงานหรือแม้แต่ทำลายสุขภาพ นักจิตวิทยาชื่อ Kimberly S. Young ได้ศึกษาพฤติกรรม ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างมากเป็นจำนวน 496 คน โดยเปรียบเทียบกับบรรทัดฐานซึ่งใช้ในการจัดว่า ผู้ใดเป็นผู้ที่ติดการพนัน การติดการพนันประเภทที่ถอนตัวไม่ขึ้น มีลักษณะคล้ายคลึงกับการติดอินเทอร์เน็ต เพราะทั้งสองอย่างเกี่ยวข้องกับการล้มเหลวในการควบคุมความต้องการของตนเอง โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสารเคมีใดๆ (อย่างสุรา หรือยาเสพติด) คำว่า อินเทอร์เน็ต ในการศึกษาวิจัยเรื่องนี้ หมายรวมถึง ตัวอินเทอร์เน็ตเอง ระบบออนไลน์ (อย่างเช่นบริการ AmericaOn-line, Compuserve, Prodigy) หรือระบบ BBS (Bulletin Board Systems) และการศึกษาวิจัยครั้งนี้ได้ระบุว่า ผู้ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้อย่างน้อย 4 อย่าง เป็นเวลานานอย่างน้อย 1 ปีถือได้ว่า มีอาการติดอินเทอร์เน็ต รู้สึกหมกมุ่นกับอินเทอร์เน็ต แม้ในเวลาที่ไม่ได้ต่อกับอินเทอร์เน็ต มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น ไม่สามารถควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตได้ รู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลงหรือหยุดใช้ ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นวิธีในการหลีกเลี่ยงปัญหาหรือคิดว่าการใชอินเทอร์เน็ตทำให้ตนเองรู้สึกดีขึ้น หลอกคนในครอบครัวหรือเพื่อน เรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตของตัวเอง การใช้อินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเสี่ยงต่อการสูญเสียงาน การเรียน และความสัมพันธ ์ ยังใช้อินเทอร์เน็ตถึงแม้ว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก มีอาการผิดปกติ อย่างเช่น หดหู่ กระวนกระวายเมื่อเลิกใช้อินเทอร์เน็ต ใช้เวลาในการใช้อินเทอร์เน็ตนานกว่าที่ตัวเองได้ตั้งใจไว้ สำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ไม่เข้าข่ายข้างต้นเกิน 3 ข้อในช่วงเวลา 1 ปี ถือว่ายังเป็นปกติ จากการศึกษาวิจัยผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างหนัก 496 คน มี 396 คนซึ่งประกอบไปด้วย เพศชาย 157 คน และเพศหญิง 239 คน เป็นผู้ที่เรียกได้ว่า "ติดอินเทอร์เน็ต" ในขณะที่อีก 100 คนยังนับเป็นปกติ ประกอบด้วยเพศชาย และเพศหญิง 46 และ 54 คนตามลำดับ สำหรับผู้ที่จัดว่า "ติดอินเทอร์เน็ต" นั้นได้แสดงลักษณะอาการของการติด (คล้ายกับการติดการพนัน) และการใช้อินเทอร์เน็ต อย่างหนักเหมือนกับการเล่นการพนัน ความผิดปกติในการกินอาหารหรือสุราเรื้อรัง มีผลกระทบต่อการเรียน อาชีพ สภาพทางสังคมและเศรษฐกิจของคนคนนั้น ถึงแม้ว่าการวิจัยที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่า การติดเทคโนโลยีอย่างเช่น การติดเล่นเกมส์ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับเพศชายแต่ผลลัพธ์ข้างต้น แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ติดอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง วัยกลางคนและไม่มีงานทำ เรื่องอนาจารผิดศีลธรรม(Pornography/Indecent Content) เรื่องของข้อมูลต่างๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางขัดต่อศีลธรรม ลามกอนาจาร หรือรวมถึงภาพโป๊เปลือยต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่มีมานานพอสมควรแล้วบนโลกอินเทอร์เน็ต แต่ไม่โจ่งแจ้งเนื่องจากสมัยก่อนเป็นยุคที่ WWW ยังไม่พัฒนามากนัก ทำให้ไม่มีภาพออกมา แต่ในปัจจุบันภาพเหล่านี้เป็นที่โจ่งแจ้งบนอินเทอร์เน็ตและสิ่งเหล่านี้สามารถเข้าสู่เด็ก และเยาวชนได้ง่ายโดยผู้ปกครองไม่สามารถที่จะให้ความดูแลได้เต็มที่ เพราะว่าอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นโลกที่ไร้พรมแดนและเปิดกว้างทำให้สื่อเหล่านี้สามรถเผยแพร่ไปได้รวดเร็วจนเรา ไม่สามารถจับกุมหรือเอาผิดผู้ที่ทำสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้ ไวรัส ม้าโทรจัน หนอนอินเตอร์เน็ต และระเบิดเวลา ไวรัส : เป็นโปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะทำลายข้อมูล หรืออาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงโดยการแอบใช้สอยหน่วยความจำหรือพื้นที่ว่างบนดิสก์โดยพลการ ม้าโทรจัน : ม้าโทรจันเป็นตำนานนักรบที่ซ่อนตัวอยู่ในม้าไม้ แล้วแอบเข้าไปในเมืองจนกระทั่งยึดเมืองได้สำเร็จ โปรแกรมนี้ก็ทำงานคล้ายๆ กัน คือโปรแกรมนี้จะทำหน้าที่ไม่พึงประสงค์ มันจะซ่อนตัวอยู่ในโปรแกรมที่ไม่ได้รับอนุญาต มันมักจะทำในสิ่งที่เราไม่ต้องการ และสิ่งที่มันทำนั้นไม่มีความจำเป็นต่อเราด้วย เช่น การแอบส่งรหัสผ่านต่างๆ ภายในเครื่องของเราไปให้ผู้เขียนโปรแกรม หนอนอินเตอร์เน็ต : ถูกสร้างขึ้นโดย Robert Morris, Jr. จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลก มันคือโปรแกรมที่จะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ จากระบบหนึ่ง ครอบครองทรัพยากรและทำให้ระบบช้าลง ระเบิดเวลา : คือรหัสซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นรูปแบบเฉพาะของการโจมตีนั้นๆ ทำงานเมื่อสภาพการโจมตีนั้นๆ มาถึง ยกตัวอย่างเช่น ระเบิดเวลาจะทำลายไฟล์ทั้งหมดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2542 นอกจากนี้ ยังมีเรื่องหลอกหลวงต่างๆ อีกมากมายที่กลายเป็นข่าวให้เราได้รับทราบอยู่เสมอ การพยายามในการเจาะทำลายระบบเพื่อล้วงความลับหรือข้อมูลต่างๆ ดังนั้น การใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจึงต้องมีความระมัดระวังในการใช้งาน มีวิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร กลั่นกรองจากหลายๆ แหล่งเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากเหล่ามิจฉาชีพไฮเทคเหล่านี้


ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์

ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail or E - mail)
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรือที่เรียกย่อๆ ว่า e - mail เป็นวิธีติดต่อสื่อสารกันบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต โดยที่สามารถส่งเอกสารที่เป็นข้อความธรรมดา จนถึงการส่งเอกสารแบบมัลติมีเดียที่มีทั้งภาพและเสียง ในการส่งผู้ที่ต้องการส่งและรับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์จะต้องมี E-mail Address ที่แน่นอน

จากhttp://www.nrru.ac.th/learning/science/sc_006/01/Page5.htm

ความหมายของอินเตอร์เน็ต

ความหมายของอินเตอร์เน็ต

อินเตอร์เน็ต (Internet) คือ เครือข่ายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกัน มาจากคำว่า Inter Connection Networkอินเตอร์เน็ต (Internet) เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่มีขนาดใหญ่ เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องทั่วโลก สามารถติดต่อสื่อสารถึงกัน ได้โดยใช้มาตรฐาน ในการรับส่งข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียว หรือที่เรียกว่าโปรโตคอล (Protocol) ซึ่งโปรโตคอล ที่ใช้บนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต มีชื่อว่า ทีซีพี/ไอพี (TCP/IP : Transmission Control Protocol/Internet Protocol) ลักษณะของระบบอินเตอร์เน็ต เป็นเสมือนใยแมงมุม ที่ครอบคลุมทั่วโลก ในแต่ละจุดที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตนั้น สามารถสื่อสารกันได้หลายเส้นทาง ตามความต้องการ โดยไม่กำหนดตายตัว และไม่จำเป็นต้องไปตามเส้นทางโดยตรง อาจจะผ่านจุดอื่น ๆ หรือ เลือกไปเส้นทางอื่นได้หลาย ๆ เส้นทาง การติดต่อสื่อสาร ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต นั้นอาจเรียกว่า การติดต่อสื่อสารแบบไร้มิติ หรือ Cyberspace


จากhttp://www.nrru.ac.th/learning/science/sc_006/01/reason.html

เน็ตบำรุงสมอง ช่วยป้องกันสติปัญญาเสื่อมลงตามวัย



เน็ตบำรุงสมอง ช่วยป้องกันสติปัญญาเสื่อมลงตามวัย





นักประสาทวิทยาศาสตร์ได้พบว่า การเล่นอินเตอร์เน็ตเป็นหนทางช่วยป้องกันผู้สูงอายุ ไม่ให้สติปัญญาเสื่อมถอยลงไปได้ทางหนึ่ง..
ศาสตราจารย์ ดร.แกรี สมอลล์ อาจารย์ของสถาบันประสาทวิทยาซีเมล มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่สหรัฐฯกล่าวบอกว่า "เราสามารถจะสอนผู้สูงอายุ ให้รู้จักลูกเล่นของเทคโนโลยีใหม่ๆ เพราะเคยพบมาแล้วว่า แม้แต่ผู้ที่ไม่สู้คุ้นเคยมาก่อน ชั่วฝึกเพียงแค่อาทิตย์เดียว ก็ปรากฏว่าบริเวณสมองมีหน้าที่เกี่ยวกับการตัดสินใจ อันเป็นสมองส่วนความคิด มีความคึกคักขึ้นเป็นอันมาก ซึ่งมันก็มีเหตุผล เพราะเมื่อเรา กำลังค้นหาทางออนไลน์อยู่นั้น จำเป็นจะต้องใช้การตัดสินใจเป็นอันมาก"
บรรดาผู้เชี่ยวชาญปัจจุบัน พากันหันมายึดหลักว่า "สติปัญญาของคนเรานั้น ถ้าหากไม่ใช้มัน ก็จะสูญมันไปเสียเลย"
ดร.แกรีกับคณะได้ศึกษากับผู้สูงอายุวัยระหว่าง 55-78 ปี ที่ยังมีสติสัมปชัญญะปกติ ให้หันมาท่องเน็ต ในขณะที่ได้ตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าสมองไปด้วย วันละ 1 ชม. ติดกัน 7 วัน และปรากฏผลลัพธ์ว่า "โดยพื้นฐานแล้ว ผู้ที่เคยจับมาบ้างแล้ว สมองของพวกเขาได้แสดงให้เห็นว่ามีความเคลื่อนไหว ขึ้นขนาดมากทีเดียว ส่วนผู้ที่เพิ่งมาจับ ซึ่งเมื่อกลับไปบ้านยังไปฝึกฝนต่อ ก็ปรากฏว่าสามารถไล่ทันมือเก่าได้เลย".
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ท่องเน็ตปลอดภัย

ท่องเน็ตปลอดภัย




อัตราผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทยในปัจจุบัน คาดว่ามีอยู่ประมาณ 15 ล้านคน บวกลบจากนี้นิดหน่อย ทีนี้เมื่อ "โลกไซเบอร์" มีพลเมืองเข้าไปอยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น กลุ่มแก๊งมิจฉาชีพก็เลยสบช่อง ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหา "เหยื่อ" เช่นกัน!เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อโจรไฮเทค บล็อกข่าวเทคโนโลยีออนไลน์ "SWITCHED" จึงตีพิมพ์บทความเขียนข้อแนะนำเบื้องต้นในการป้องกันตัวไว้ ว่า
1. อย่าซื้อของจากเว็บไซต์ที่ไม่เป็นที่รู้จัก ไม่คุ้นเคย หรือแทบไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
2. อย่าหลงเชื่อข้อมูลต่างๆ จาก "อีเมล์ลูกโซ่" ซึ่งฟังดูดีเกินกว่าจะเป็นจริง อาทิ "ด่วน คุณถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1!"
3. เวลาใช้อีเมล์ อย่าเปิดหรือกดดาวน์โหลดไฟล์จากคนไม่รู้จัก เพื่อป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์
4. อย่าคลิกดูโฆษณาขยะจำพวก "ป๊อปอัพ"
5. อย่าใช้เครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะทำธุรกรรมการเงินอิเล็ก ทรอนิกส์
6. เวลาไปใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สายในที่สาธารณะ ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์
7. หัดลองใช้เบราเซอร์ หรือโปรแกรมท่องอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยดีๆ เช่น ไฟร์ฟ็อกซ์, โอเปร่า
8. หมั่นอัพเดตโปรแกรมป้องกันไวรัส-หนอนคอมพิวเตอร์
9. อย่าใช้ "รหัสลับ" เหมือนกันจนเปรอะไปทุกเว็บไซต์
10. อย่าโพสต์ หรือเขียนข้อมูลส่วนตัวลงไปในเว็บไซต์ต่างๆ รวมถึงเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์
11. เมื่อมีอีเมล์ส่งเข้ามาถึงอ้างว่า เว็บนั้นเว็บนี้มีการเปลี่ยนแปลง จึงอยากขอให้ช่วยส่งข้อมูลใหม่ไปให้ อย่ารีบร้อนกรอกข้อมูลส่วนตัวใดๆ ลงไปเพราะอาจติดกับกลลวงประเภท "ฟิชชิ่งสแคม" โดยไม่รู้ตัว ทางที่ดี เมื่อมีข้อสงสัยให้หาเบอร์โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลจากเจ้าของเว็บไซต์นั้นๆ ให้ชัดเจนเสียก่อน!

ขอบคุณข้อมูล : บอร์ดเย็นตาโฟ
www.teenee.com

calendar

ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้